ว่ากันด้วยเรื่อง เรือนอก อีกแล้ว
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเรื่องที่ผมกำลังจะเขียนต่อไปนี้ ผมไม่ได้หมายถึงผู้หนึ่งผู้ใด หรือ มีเจตนาที่จะทำลายใคร หรือ มีส่วนได้ส่วนเสียกับใคร แค่ต้องการจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ในยุคที่ เรือนอก รุ่งเรืองเหมือนในเช่นปัจจุบัน ต้องขอบอกก่อนเลยว่า นิยามคำว่า เรือนอก ของสมัยนี้สำหรับผมต่างจากสมัยก่อนแบบเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว หลายๆท่านที่เคยได้อ่านบทความเก่าๆของผมอาจจะพอนึกภาพออก แต่สำหรับท่านที่ยังไม่เคยอ่าน ต้องขอบอกว่าในสมัยก่อนนั้น เวลาเราพูดถึง เรือนอก เราจะหมายถึง เรือที่มาจากอเมริกา หรือ ยุโรป ซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นเรือที่มาจากญี่ปุ่น ก็จะเป็นเรือ Bassboat หรือ Bow Rider ที่สภาพแต่ล่ะลำเอามาถึงแทบจะไม่ต้องทำอะไร หรือ ถ้าต้องทำกันจริงๆก็ทำกันน้อยมากๆ ก็เอามาวิ่งกันได้แล้ว แต่ทุกวันนี้เรือนอกที่เอาเข้ามาขายกัน มีตั้งแต่เรือที่เมืองนอกเค้าปลดระวาง และ ไม่อนุญาตให้นำมาใช้แล้ว ถึงเรือระดับนางฟ้า พวกเรือระดับนางฟ้าพวกนี้แทบจะไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นยังไง เพราะตามที่บอกสภาพมานางฟ้ามากๆ แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แต่อีกประเภทนี่ซิ???
เรือที่เมืองนอกเค้าปลดระวางกันแล้วหลายๆลำยังอยู่ในสภาพที่ดีมากๆที่ยังสามารถเอามาใช้ได้อีกหลายปี แค่ต้องเอามาขัดสีฉวีวรรณปะแป้งทาปากกันสักหน่อย ก็เอาออกมาใช้ได้แล้ว แต่บางลำที่สภาพไฟเบอร์ก็เริ่มที่จะหมดอายุ ท้องเรือมีรอยแตกรอยร้าว แทรนซั่มเริ่มผุ เรียกว่า เอาเข้ามาเผื่อแขวนเครื่องเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเครื่องแค่นั้น แต่เมื่อมาถึงแล้วดันมีคนมาขอซื้อไปเล่นนี่ซิ จนหลังๆกลายเป็นว่าเรือเหล่านี้กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บางคนที่มีความรู้ และ เอาไปทำอย่างถูกต้องก็พอจะใช้ไปได้อีกสักพัก แต่บางคน หรือ มือใหม่ที่ไม่รู้เรื่องนี่ซิน่ากลัวมากๆ ผมเคยเห็นพ่อค้าบางคน ใช้สีโป๊วรถยนต์ไปโป๊ว รอยร้าว รอยแตกของท้องเรือ แล้วก็ใช้สีพ่นรถยนต์พ่นทั้งลำเรือ แค่นี้ก็ดูเหมือนเรือใหม่แล้วเอาออกมาขายเป็นเรือเก่าสภาพดี ซึ่งคนที่ไม่รู้อาจจะบอกว่า ดูดี ดูใหม่มากๆ แต่ขอบอกไว้เลยว่า มันเป็นเรือที่อันตรายแบบสุดๆครับ คนขายเรือประเภทนี้ไร้จรรยาบรรณมากๆ และ ไม่ควรที่จะอยู่ในวงการนี้เลย
ทำไมผมถึงพูดเช่นนั้น เพราะว่า สีโป๊วของรถยนต์นั้น ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในน้ำ และ ไม่สามารถที่จะทนต่อการกัดกร่อนของน้ำทะเล หรือ ความกดดันของน้ำได้ คิดสภาพว่าถ้าเรือลำนั้นมีคนซื้อไป ซึ่งคนซื้ออาจจะไม่รู้ ว่าท้องเรือของตัวเองมีปัญหา แล้วเค้าลากเรือไปเที่ยวกับครอบครัวมีเด็กเล็กๆไปด้วย แล้วถ้าเกิดเรือเค้ามีปัญหาขึ้นมา คนขายจะรับผิดชอบอะไรให้เค้ารึเปล่า เพราะผมเชื่อว่าคนขายก็จะบอกว่า ก็คุณซื้อของเก่า คือ ซื้อตามสภาพ คุณพอใจ คุณซื้อไปเอง ผมไม่ได้บังคับคุณนี่ ซึ่งมุกนี้ต้องขอบอกว่า เป็นมุกที่ร่วมสมัยสุดๆ จะกี่ปีก็ยังได้ยินคำเดิมๆแบบนี้ตลอด นี่เราพูดกันถึงแค่ตัวเรือนะครับ
เที่ยวนี้มาเรื่องเครื่องยนต์กันบ้าง สำหรับผม จริงอยู่ถ้าเครื่องยนต์มีปัญหาอาจจะทำให้เราต้องกินข้าวโลมากลางน้ำ แต่อย่างน้อยตัวเรือก็ยังลอยอยู่ ยกเว้นถ้าเกิดเหตุระหว่างพายุอันนี้หนักหน่อย เครื่องยนต์ที่มากับเรือเก่าๆพวกนี้ มีทั้งสภาพใหม่มากๆ เรียกว่าเครื่องเพิ่งใช้ไปไม่กี่ชั่วโมง ยันเครื่องที่แทบจะเอามาทับกระดาษ หรือ ถ้าเอามาทำให้สมบูรณ์จริงๆราคาเกือบจะเท่าซื้อเครื่องใหม่ หรือ อาจจะรวมกันแล้วแพงกว่าเครื่องใหม่ซะอีก คำพูดของพ่อค้าเครื่องที่หลังๆผมได้ยินบ่อยมากๆคือ เครื่องสตาร์ทติด คำนี้ขอบอกว่าคลาสสิคมากๆ คำว่าสตาร์ทติดไม่ได้แปลว่าใช้ได้นะครับ หลายคนอาจจะคิดว่าอย่างน้อยก็สตาร์ทติด แถมไอ้เครื่องสตาร์ทติดนี่ราคาแรงใช้ได้ด้วยเพราะมันสตาร์ทติด ส่วนสตาร์ทติดแล้ววิ่งได้รึเปล่านี่มันคนล่ะเรื่องกันนะครับ ดังนั้นต้องระวังกันด้วยกับคำว่าเครื่องสตาร์ทติด เพราะเครื่องอาจจะสตาร์ทติดจริง แต่แหวนแตก ลูกสูบติด เกียร์พัง ไฟจ่ายไม่ดี หรือ เดินไม่เต็มสูบ และ อีกหลายๆอย่าง ซึ่งรวมค่าซ่อม กับ ค่าตัวเครื่องที่ซื้อมา อาจจะแพงกว่าซื้อเครื่องใหม่ หรือ เท่ากับซื้อเครื่องใหม่ผมก็เห็นมาไม่น้อย
ที่ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหลังๆเห็นเรื่องแบบนี้เยอะมากๆ เลยอยากจะมาเตือนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่คิดอยากจะมีเรือลำแรกเป็นของตัวเอง ให้ดูให้ดีๆก่อนที่จะตัดสินใจ หรือ ถ้าไม่มั่นใจจริงๆหาเพื่อนๆที่พอจะรู้ไปช่วยดูก็จะยิ่งดีครับ อย่างที่ผมเขียนมาตั้งแต่แรกว่า ผมไม่ได้หมายถึงผู้หนึ่งผู้ใด หรือ มีเจตนาที่จะทำลายใคร และ ก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครทั้งนั้น แค่เขียนขึ้นมาอยากจะเตือนเพื่อนๆที่กำลังคิดอยากจะมีเรือเป็นของตัวเองสักลำ ไม่อยากให้คำที่ว่า เล่นเรือมีความสุขแค่สองวัน คือวันที่ได้เรือ กับ วันที่ขายเรือได้
