นั่งคิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องราวอะไรให้เพื่อนๆอ่านดี พอดีเมื่อไม่นานมานี้มีเพื่อนคนนึงมาถามผมว่า ผมเล่นเรือมานาน ไม่กลัวบ้างเหรอ? ยิ่งผมมักจะเล่นเรือคนเดียวเป็นประจำเวลาที่ออกไปอยู่กลางน้ำคนเดียวด้วย ถ้าเกิดเรือเสีย เจอพายุ คลื่นลมแรง หรือ เรือมีปัญหาจะทำยังไง?
ขอบอกว่าเป็นคำถามที่ดีมากๆเลยครับ และ ผมคิดว่าคำตอบของผมน่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยสำหรับนักเล่นเรือมือใหม่
คำตอบของผมคือ “ กลัว “ ครับ ถึงแม้ว่าผมจะเล่นเรือมานาน ประสบการณ์ก็มีอยู่พอสมควร เจอกับเหตุการณ์ต่างๆมาเรียกได้ว่านับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าแตก เจ็บเนื้อ เจ็บตัว เรียกว่าโดนมาหมด แม้ประสบการณ์จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น และ ได้เรียนรู้มากขึ้น แต่ผมยังพูดได้เต็มปากเลยว่า ผมก็ยังกลัวอยู่ครับ
แต่ด้วยความกลัวนี่แหระครับที่ทำให้เราไม่ประมาท ทุกวันนี้ผมยังคงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเรื่องเทคนิคต่างๆ เครื่องไม้เครื่องมือ และ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้บนเรือ เพราะเทคโนโลยีในสมัยนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ๆ ถ้าไม่คอยติดตามข่าวสาร รับรองว่าไม่มีทางตามทันแน่ๆครับ
และด้วยความกลัวของผม ทำให้ทุกครั้งก่อนที่ผมจะตัดสินใจเอาเรือลงน้ำ ผมจะต้องหาข้อมูลต่างๆมากมาย เริ่มจากต้องดูมาตรน้ำก่อนว่า วันที่เราคิดจะเอาเรือลงนั้นสภาพน้ำเป็นอย่างไรบ้าง สามารถที่จะเอาเรือขึ้นลงได้เวลาใหนบ้าง ถ้าสภาพน้ำดี สิ่งต่อไปที่ผมจะต้องเช็คคือสภาพอากาศ ว่าสภาพอากาศจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าเป็นวันที่คิดว่าจะขับเรือออกทะเล ผมก็จะต้องเช็คสภาพของคลื่นลมของจุดที่จะไปด้วยว่าสภาพคลื่นลมเป็นอย่างไร หลังจากที่เช็ค ลม ฟ้า อากาศ แล้วเห็นว่าคลื่นลม และ กระแสน้ำเป็นใจ สิ่งต่อไปที่ผมจะเช็คก็คือสภาพของเรือครับ โดยปกติแล้วผมจะคอยเช็คสภาพเรือ และ เครื่องยนต์เป็นประจำ คอยดูแลรักษาให้เรือ และ เครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ตลอดเวลา เครื่องยนต์ถ้าผมไม่มีเวลาที่จะได้เอาเรือลงน้ำ ผมก็จะหมั่นไปคอยสตาร์ทอุ่นเครื่องทุกๆ 2-3 อาทิตย์ ให้เครื่องยนต์ได้ทำงาน ส่วนตัวเรือโดยปกติทุกครั้งเวลาที่ผมเล่นเรือเสร็จ ผมจะล้างทำความสะอาด และ เช็ดให้แห้ง แล้วก็เอาผ้าคลุมๆไว้ แต่ทุกครั้งที่ผมมาอุ่นเครื่องผมก็จะถือโอกาสทำความสะอาดตัวเรือไปด้วยทุกครั้ง
เรือ และ เครื่องยนต์ถ้าเราดูแลเค้าเป็นประจำ จากประสบการณ์ของผม บอกได้เลยว่าไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไหร่ และ ทุกครั้งก่อนที่จะเอาลงน้ำ 1 วันผมจะทำการ final check อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบ อุปกรณ์ทุกชิ้นว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่จะใช้งานรึเปล่า ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่ ระบบไฟของเรือ ใบจักรเรือ เครื่องยนต์ พวงมาลัย ทริม นอกจากในส่วนของตัวเรือและเครื่องยนต์ที่ผมตรวจสอบแล้ว อุปกรณ์จำเป็น รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือ ที่ต้องมีติดเรือก็ต้องตรวจสอบเช่นกันว่ามีครบรึเปล่า เช่น เสื้อชูชีพ ไม้พาย เชือกสำหรับผูกเรือ เชือกสมอ ไฟฉาย เครื่องมือช่าง น้ำมันสำรอง(ในกรณีที่คิดว่าจะเดินทางไกล) น้ำมันเครื่องสำรอง มีดพก ถังดับเพลิง และ น้ำมันเอนกประสงค์ WD40 วิทยุสื่อสาร (ถ้ามี) แต่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่มักจะพกโทรศัพท์มือถือแทน แต่ถ้าออกไปเล่นทะเลห่างฝั่งไกลๆ คลื่นมีแน่นอน แต่เป็นคลื่นทะเลนะครับ ส่วนคลื่นสัญญาณมือถือเอาแน่นอนไม่ได้จริงๆ ดังนั้นควรที่จะพกวิทยุสื่อสารออกไปด้วยครับ
หลังจากที่ผมตรวจสอบเรือ และ อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นแล้ว สิ่งต่อมาที่ผมจะไม่ควรจะขาดเลยก็คือเสบียงครับ ทุกครั้งเวลาที่ผมลงเรือ ผมมักจะตุนเสบียงให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ขนมปัง อาหารแห้ง แม้แต่ผ้าเย็น โดยมีคติประจำตัวเวลาที่ขนของลงเรือก็คือ เหลือดีกว่าขาด เพราะถึงแม้ว่าเราจะเช็คทุกอย่างแล้ว แต่ประสบการณ์ของผมได้บอกผมว่า ไม่มีใครสามารถที่คาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรจะเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสถานะการณ์ อย่างน้อยถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมายังพอที่จะเอาตัวรอดได้บ้าง
อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะคิดว่าผมเวอร์ เพราะเห็นคนเล่นเรือหลายๆคนอยากจะเล่นก็แค่ลากเรือไปลงน้ำก็จบ แต่อย่างที่ผมได้พูดไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าผมยัง “ กลัว “ อยู่ครับ หวังว่าคำตอบของผมคำตอบนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขอให้เล่นเรือให้สนุก และ ปลอดภัยนะครับ
