การอ่านตารางน้ำ
ผมได้ลงลิ้งค์สำหรับการโหลดตารางน้ำไว้ให้แล้วในบทความเก่า และ ก็ได้ลงตารางที่หน้าเพจของเราที่ FB ด้วย แต่มีคนเขียนมาถามอยู่ต้องเรียกว่าทุกอาทิตย์เลยว่าวันนั้นวันนี้ น้ำขึ้นกี่โมง น้ำลงกี่โมง วันนี้ผมเลยขอถือโอกาส สอนวิธีการอ่านตารางน้ำแบบง่ายๆสำหรับคนที่ยังดูตารางน้ำไม่เป็นนะครับ
สำหรับคนเล่นเรือ และ คนที่ชอบตกปลาโดยเฉพาะ คนที่ชอบตกปลาในแม่น้ำ หรือ ทะเล การดูตารางน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับชาวเรือ เราต้องดูตารางน้ำเพื่อที่จะรู้ว่าเราควรที่จะเอาเรือขึ้นลงเวลาใหน เพราะถ้าเราลากเรือไปถึงที่แรมป์แล้วปรากฎว่าน้ำลงจัดแรมป์ขาด เราก็ไม่สามารถที่จะเอาเรือลงได้ ก็จะทำให้เสียเที่ยว หรือ ต้องนั่งรอกันหลายชั่วโมง หรือ ขับเรือกลับเข้าฝั่งแล้ว แต่น้ำลงจัด ไม่สามารถเอาเรือขึ้นได้ นอกจากที่ตารางน้ำจะบอกเวลาที่เราสามารถจะเอาเรือขึ้นลงได้แล้วนั้น ตารางน้ำนี้ยังช่วยเราเวลาที่เราจะจอดเรือเทียบท่าด้วยเช่นกัน เพราะเวลาที่เราจะจอดเรือเราควรที่จะหันหัวเรือของเราวิ่งทวนน้ำเพื่อให้น้ำช่วยเบรคเรือของเราด้วยอีกแรง ดังนั้นตารางน้ำมีความสำคัญมาก นอกจากตารางน้ำจะบอกเวลาขึ้นลงของระดับน้ำแล้ว ตารางน้ำยังแสดงให้เราเห็นถึงความแรงของกระแสน้ำในวันนั้นๆด้วยเช่นกัน ส่วนคนที่ชอบตกปลา เค้าจะใช้ตารางน้ำเพื่อดูเวลาว่าเวลาใหนที่ปลาน่าจะกินดีที่สุด เพราะโดยปกติแล้ว ปลามักจะกินดีช่วงหัวน้ำ หรือ ช่วงรอยต่อของการขึ้นลงของน้ำนั่นเอง ทั้งหัวน้ำขึ้น และ หัวน้ำลง ดังนั้นคนที่ชอบตกปลาก็จะอาศัยการดูหัวน้ำจากตารางน้ำนี่เช่นกัน
ทีนี้เรามาดูวิธีการอ่านตารางน้ำแบบง่ายๆกันนะครับ ว่าดูอย่างไร
ตามในรูปเราจะเห็นว่า ด้านบนจะระบุไว้ว่าเป็นตารางน้ำของที่ใด เช่นในภาพนี้คือ ปากแม่น้ำแม่กลอง (สมุทรสงคราม) จะมีละติจูด และ ลองจิจูด ไว้ให้เราเช็คด้วยนะครับว่าจุดใด ผมขอขยายความเรื่องนี้นิดนึงนะครับ ตามพิกัดที่ตารางน้ำให้มาจะเป็นพิกัดที่ปากแม่น้ำ ซึ่งคือ จุดแรกของน้ำขึ้นน้ำลงของแม่น้ำนั้นๆที่น้ำจะขยับตัว ถ้าเราอยู่ลึกจากปากแม่น้ำเข้ามากมากๆต้องมีการบวกเวลาไว้ด้วยนะครับ ถ้าใครเคยดูตารางน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาเราจะเห็นได้ว่า เวลาขึ้นลงของแต่ล่ะที่จะไม่เท่ากัน เป็นเพราะว่าระยะทางที่ห่างจากปากแม่น้ำ เช่น ถ้าเราดูที่พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งอยู่ปากอ่าว กับ ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ หรือ ท่าเรือคลองเตย เวลาการขึ้นลงของน้ำจะต่างกัน
ลงมาจากพิกัดสถานที่ก็จะเป็นเดือน ตามในภาพนี้ คือ เดือนธันวาคม ปี 2559 หรือ 2016
ส่วนตารางทางด้านซ้ายมือจะบอกวันที่ และ ตารางที่ด้านบนจะบอกเวลา ด้านซ้ายสุด ที่ เลข 0 คือ เวลา เที่ยงคืน ส่วน 1 ไล่ลงไป ก็คือ เวลานั้นๆครับ ตามในภาพเราจะเห็นว่า ณ เวลา เที่ยงคืน ระดับน้ำอยู่ที่ 1.3 คือ 1.3 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง เวลาตี 1 ระดับน้ำอยู่ที่ 1.2 จากตัวเลขเราสามารถที่จะบอกได้ว่านี่ คือ เวลาที่เริ่มลง แต่ถ้าเราจะดูว่าเริ่มลงตั้งแต่กี่โมง เราจะต้องย้อนกลับไปดูตารางน้ำของวันที่ 30 พฤศจิกายน ประกอบไปด้วยครับ แต่จากภาพนี้เราจะเห็นได้ว่า ตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึง ตัวเลข 3.7 ที่เวลา 7 โมงเช้า นั่นแปลงว่าน้ำขึ้นสูงสุดเวลา 7 โมงเช้า แล้วหลังจากนั้นตัวเลขจะค่อย ๆ ลดลงซึ่งแปลว่า ตอน 7 โมงเช้า คือ หัวน้ำลงครับ ถ้าเราดูต่อไปเรื่อยๆ จนถึงเวลา บ่ายโมง ถึง บ่าย 2 โมง เราจะเห็นว่าช่วงเวลานี้ระดับน้ำเท่ากันพอดีที่ 2.7 ซึ่งแปลว่าในช่วงเวลานี้น้ำจะนิ่ง หรือ ที่เค้าเรียกกันว่าน้ำตายนั่นเองครับ แล้วหลังจากนั้น ที่บ่าย 3 เราจะเห็นว่าตัวเลขเริ่มขยับขึ้นอีกครั้ง ซึ่งก็ คือ หัวน้ำขึ้น ดังนั้นหัวน้ำขึ้นก็จะอยู่ในช่วงเวลาระหว่าง บ่าย 2 โมง ถึง บ่าย 3 โมง
หลังจากที่เราดูแล้วว่าน้ำขึ้นลงอย่างไร เที่ยวนี้เรามาดูเรื่องความแรงของกระแสน้ำกันบ้างครับ เมื่อกี้เรามีพูดถึงเรื่องน้ำตายไปแล้ว เที่ยวนี้เราจะมีตัวเลขที่บอกความแรงของน้ำกันนะครับ ถ้าเราเริ่มดูจากเวลาที่น้ำตาย คือ บ่าย 2 โมง และ เวลาบ่าย 3 โมง เราจะเห็นว่า ตอนบ่าย 2 โมง นั้นระดับน้ำอยู่ที่ 2.7 และ พอ 3โมง ระดับน้ำอยู่ที่ 2.9 ซึ่งนั่นหมายถึง ในหนึ่งชั่วโมงนั้นระดับน้ำเพิ่มขึ้น 20 เซนติเมตร พอดูไปที่เวลา 4 โมงเย็น ระดับน้ำอยู่ที่ 3.1 ซึ่งแปลว่าในชั่วโมงนี้ระดับก็ยังขึ้นที่ 20 เซนติเมตรในหนึ่งชั่วโมงอยู่ แต่พอเราไปดูที่เวลา 5 โมงเย็น เราจะเห็นว่าตัวเลขอยู่ที่ 3.2 ซึ่งแปลว่าในชั่วโมงนี้กระแสน้ำเริ่มเบาลงนิดหน่อยเหลือขึ้นแค่ 10 เซนติเมตรในหนึ่งชั่วโมง และ ตัวเลขช่วง 5 โมงเย็นนี้เป็นตัวเลขสูงสุดของช่วงบ่ายซึ่งหมายถึง จาก 5 โมงไปน้ำก็จะเริ่มลดลงอีกครั้ง นั่นก็ คือ หัวน้ำลงนั่นเองครับ จากตัวเลขดังกล่าว เราจะเห็นได้ว่า ถ้าช่วงเวลาใหนที่ตัวเลขแต่ล่ะชั่วโมงต่างกันมากๆ นั่นแปลว่ากระแสน้ำแรงมากๆ ถ้าตัวเลขต่างกันแค่ .1 แปลว่ากระแสน้ำไหลเอื่อยๆ หรือ ถ้าตัวเลขเท่ากัน แปลว่า น้ำตายนั่นเองครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับนักเล่นเรือมือใหม่ หรือ คนที่ยังดูตารางน้ำไม่เป็นนะครับ
