คนที่อยู่ในวงการเรือมานานๆ หรือ คนที่ทำการซื้อขายเรือ ไม่มีใครพูดว่าเรือนั้นมีราคาแพงสักคน ส่วนใหญ่จะพูดกันว่าราคาถูกมากๆ ราคาดีมากๆ น่าซื้อน่าเล่นมากๆ แต่จริงๆแล้วเราต้องยอมรับว่าเรือนั้นราคาไม่ได้ถูกเลย หรือ แพงนั่นเอง
แต่ทำไมเรือถึงแพง
ถ้าเราเทียบกันกับพาหนะอย่างอื่นโดยเฉพาะรถยนต์ เรือนั้นมีราคาสูงกว่ามาก ๆ สิ่งนึงที่คนไม่ได้นึกถึงก็คือ บริษัทผู้ผลิตเรือนั้นเล็กมากๆ ถ้าเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่นในปี 2019 บริษัทเรือในอเมริการวมกันทั้งหมดผลิตเรือได้ประมาณ 350,000 ลำ ถ้าเทียบกับบริษัทผลิตรถยนต์ ยังไม่ต้องไปถึงกับบริษัทที่ใหญ่ที่สุด เอาแค่อันดับสอง อย่าง Mitsubishi เค้าสามารถผลิตรถยนต์ได้ถึง 1,200,000 คันใน 1 ปี ซึ่งถ้าเอามาเปรียบเทียบกับเรือแล้ว เราจะเห็นว่าขนาดแตกต่างกันอย่างมาก
และ เทคโนโลยีในการผลิตก็แตกต่างกันอย่างมาก บริษัทรถยนต์ในสมัยนี้ส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรในการผลิต แต่ในขณะที่ผู้ผลิตเรือส่วนใหญ่ยังต้องผลิตด้วยมือคนอยู่เลย อย่างมากก็จะมีเครื่องผ่อนแรงช่วยให้ทำงานให้ง่ายขึ้นบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังต้องใช้แรงงานคนในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมอลูมิเนียม การเลย์ไฟเบอร์ หรือ การเย็บเบาะต่างๆ ทำให้ค่าแรงในการผลิตนั้นสูงมากๆ และ นั่นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เรือมีราคาแพง นอกจากนั้น วัสดุต่างๆที่ใช้ในการสร้างเรือ เช่น เจลโค๊ท เรซิ่น ล้วนเป็นวัสดุที่มีจุดเริ่มต้นมาจากปิโตรเลียม และ ราคาน้ำมันในสมัยนี้ที่สูงขึ้นทุกวัน ทำให้วัสดุเหล่านี้มีราคาแพงขึ้นตลอดเวลา และ การจัดเก็บก็ไม่ได้ง่ายเพราะเป็นวัตถุไวไฟ ต้องทำห้องจัดเก็บอย่างดีมีระบบป้องกันอัคคีภัยแบบเต็มรูปแบบซึ่งล้วนเป็นต้นทุนการผลิตของเรือทั้งนั้น อุปกรณ์ต่างๆของเรือเนื่องจากธุรกิจเรือเล็กกว่ารถยนต์มากๆ ทำให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆของเรือ ไม่สามารถทำออกมาเพื่อขายให้ได้ปริมาณเยอะๆแบบของรถยนต์ซึ่งจะทำให้ราคาถูกลงเยอะมากๆ เลยต้องตั้งราคาอุปกรณ์ให้สูงขึ้นมากๆ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจของเค้า
ข้อสุดท้ายคือ เรือนั้นมีอายุมากกว่ารถยนต์มากๆ รถยนต์ส่วนใหญ่เราใช้กันอย่างมากก็ 10-20 ปี ก็เรียกว่าใช้นานมากๆแล้ว แต่สำหรับเรือนั้นบางลำใช้กันที 50-60 ปีก็ยังใช้ได้อยู่เลย และ ค่าเสื่อมราคาของเรือก็ลดน้อยกว่ารถยนต์มากๆ แม้จะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วราคาเรือก็ยังไม่ได้ลดลงมากเหมือนเวลาที่เราขายรถใช้แล้ว และ ทั้งหมดนี้คือปัจจัยหลักๆที่ทำให้ราคาเรือมีราคาแพง