วันนี้ผมอยากจะพูดถึงเรื่องเล่าต่างๆของชาวเรือที่เรามักจะได้ยินกันมาบ่อยมันมีทั้งที่จริง และ จริงบางส่วน และ ก็มีที่ผิดเลยทำให้คนเข้าใจกันผิดๆเยอะมากๆ
เรามาเริ่มกันที่เรื่องแรกเลย เรือใหญ่ปลอดภัยกว่าเรือเล็ก
เรื่องนี้ต้องบอกว่าเรือใหญ่ลำทำให้เรารู้สึกถึงความใหญ่พื้นที่เยอะ และ ไม่ค่อยรู้สึกกับคลื่นเล็กเลยทำให้เรารู้สึกว่าปลอดภัยกว่าเรือเล็ก แต่จริงๆแล้วเรือเล็กๆก็มีหลายประเภทที่มีความปลอดภัยมากๆ เพียงแต่ต้องเลือกเรือให้ถูกกับสถานที่ๆจะนำเรือไปใช้ และ สถานะการณ์ เช่นเรือสำหรับวิ่งทะเลสาป ก็ไม่ควรเอาออกไปวิ่งทะเล หรือ ทะเลมีคลื่นลมแรงก็ไม่ควรเอาเรือเล็กออกไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรือเล็กจะออกทะเลตอนคลื่นลมแรงไม่ได้ทั้งหมด ยังมีเรือประเภท RIB (Rigid Inflatable Boat) ที่หน่วยยามฝั่ง และ กู้ภัยใช้สำหรับภารกิจออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนั้นคำที่ว่า เรือใหญ่ปลอดภัยกว่าเรือเล็ก ไม่จริงเสมอไปครับ
เรื่องที่สองคือการจะซื้อเรือ แค่เสียบสายน้ำเข้าไปที่เครื่องลองสตาร์ทเครื่องแล้วสามารถซื้อได้เลย
เรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่จริง หลายๆอาการของเรือเราไม่สามารถที่จะบอกได้เวลาที่อยู่บนบกเลย ว่าเรือกับเครื่องเข้ากันได้รึเปล่า เวลาวิ่งเครื่องมีปัญหาอะไรรึเปล่า ได้รอบที่ควรจะเป็นหรือไม่ หรือ มีอาการอะไรเวลาวิ่ง เรื่องนี้สามารถรู้ได้โดยการเอาเรือลงวิ่งทดสอบในน้ำจริงๆเท่านั้น ดังนั้นเรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่จริงครับ
เรื่องที่สาม ซื้อเรือจากคนที่ลงประกาศขายไม่ต่างจากซื้อเรือจากดีลเลอร์
เรื่องนี้ผมเคยเขียนในบทความเก่าๆให้อ่านกันแล้ว แต่มาเล่าตรงนี้อีกทีว่าเรื่องนี้ไม่จริงเลย การซื้อเรือจากคนที่ลงประกาศขายทั่วไปนั้นมีความเสี่ยงเยอะมากๆ เพราะเป็นการซื้อตามสภาพ ผู้ซื้อต้องรับความเสี่ยงเองทั้งหมด และ ยิ่งถ้าไม่ได้ลองวิ่งในน้ำยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่จริงครับ
เรื่องที่ 4 การซื้อเรือเก่าถูกกว่าการซื้อเรือใหม่
เรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่จริงเสมอไป การซื้อเรือเก่าเบื้องต้นถูกกว่าการซื้อเรือใหม่แน่ๆ เพราะยังไงของใช้แล้วก็ถูกกว่าของใหม่แกะกล่อง แต่ถ้าเรามาคิดกันดีๆ ในระยะเวลา 5-10 ปีที่ใช้เรือ เรือเก่าอาจจะมีค่าซ่อม คำบำรุงรวมๆแล้วแพงกว่าราคาเรือใหม่ก็เป็นไปได้ ดังนั้นก็นี้ต้องตอบว่า ไม่จริงเสมอไปครับ
เรื่องที่ 5 ประกันเรือแพงกว่าประกันรถยนต์
เรื่องนี้ถ้ามองเผินจะมองว่ายังไงประกันเรือก็แพงกว่าประกันรถยนต์ เพราะเบี้ยประกันเรือนั้นสูงมาก แต่ถ้าเราเอามาเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์ เราต้องคิดเป็นอัตราส่วนต่อราคา ปีๆนึงเราใช้เรือรวมกันทั้งปีอาจจะไม่ถึง 50 ชั่วโมงซะด้วยซ้ำ แต่ในขณะที่รถยนต์นั้นเราใช้รวมๆกันเป็นพันชั่วโมง ถ้าเอาราคาตัวรถเป็นตัวตั้งและคิดเป็นเปอร์เซ็นเพื่อจ่ายเบี้ยประกัน ประกันของเรืออาจจะถูกกว่ารถยนต์อีกนะครับเพราะโอกาสที่เราจะเคลมเรื่องเรือนั้นน้อยกว่ารถยนต์มาก บางทีมีแผลเล็กๆน้อยๆเราก็ไม่เคลมไม่เหมือนกับรถยนต์ที่เราเคลมกันตลอด ดังนั้นประกันเรือไม่ได้แพงกว่ารถยนต์เสมอไปครับ
เรื่องที่ 6 เราจำเป็นต้องมีใบนายท้ายสำหรับเรือใหญ่เท่านั้น
เรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่ใช่แน่นอนครับ เพราะเรือทุกลำ ทุกประเภทนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรือเล็ก หรือ เจ็ทสกี คนขับเรือจะต้องมีใบนายท้าย และ บางทีต้องมีใบช่างเครื่องพ่วงไปอีกใบด้วย
เรื่องที่ 7 ถ้าจะเก็บเรือนานๆให้เติมน้ำมันเรือให้เต็มไว้
เรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่จริงเลยเหมือนกันครับ เพราะถ้าเราเติมน้ำมันให้เต็มถังเอาไว้อากาศร้อนๆแบบบ้านเรานั้นอาจจะทำให้น้ำมันเกิดความขยายตัวและดันออกมาจนล้นพื้นเรือก็เป็นไปได้ และ อีกอย่างคือ ทุกวันนี้เราใช้น้ำมันแก็สโซฮอลล์ในการเติมเรือ แก็สโซฮอลล์นั้นจะดูดความชื้นโดยรอบเข้าไปหาตัวมันอาจจะทำให้มีน้ำไปผสมกับน้ำมันก็เป็นไปได้ ดังนั้นถ้าต้องจอดเรือไว้นานๆ ควรจะดูดน้ำมันออก แล้วเหลือไว้ประมาณครึ่งถัง หรือ ¼ ถังจะดีที่สุด
จริงๆยังมีเรื่องเล่าแบบนี้อีกหลายเรื่องเลย ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ
