ร่องน้ำทางเดินเรือ (Navigation Channel)
ร่องน้ำสำหรับการเดินเรือนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักเล่นเรือควรที่จะต้องศึกษาอย่างรอบครอบผมได้เห็นนักเล่นเรือมือใหม่หลายๆคนที่ไม่ฟังคำเตือนเรื่องการวิ่งเรือในร่องน้ำ และ บางคนยังหันกลับมาว่า และ บอกกับผมว่าเรืออย่างพวกเราเป็นเรือเล็กไม่มีปัญหาหรอก ใช่ครับการวิ่งเรือนอกร่องน้ำนั้นบางคนอาจจะโชคดีที่ผ่านไปได้โดยไม่เกิดอุบัติเหต แต่บางคนอาจจะไม่โชคดีแบบนั้น สำหรับตัวผมแล้วการเล่นเรือที่ถูกต้องเราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ดังนั้นผมว่าเราไม่ควรที่จะเสี่ยงในสิ่งที่ไม่ควรจะเสี่ยง จากประสบการณ์ของผมเองผมเคยเห็นเรือที่วิ่งชนสันดอนปากอ่าน แล้วคนกระเด็นตกน้ำมาไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง โชคดีที่แค่เรือแตกแต่คนไม่เป็นอะไร ตัวผมเคยเพลินเข้าไปในสันดอนกับเค้าเหมือนกัน เพราะมัวแต่มองเรือหางยาวลำข้างหน้าลืมมองร่องน้ำ โชคดีที่รู้ตัวซะก่อน แต่รู้ตัวก็เกือบจะสายเกินไปซะแล้ว อยู่ห่างฝั่งถึง 5 กม. แต่ระดับความลึกของน้ำอยู่แค่ 1 ฟุตเท่านั้นเอง โชคดีที่เรือของผมกินน้ำตื้น และ มี Jackplate ช่วยอีกแรงเลยออกมาได้ จากประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมเริ่มศึกษาเรื่องร่องน้ำ การอ่านหลักไฟนำร่อง และ แผนที่ร่องน้ำ เกริ่นมาซะยาวผมขอเริ่มเลยแล้วกันนะครับ
ประเทศไทยของเรามีร่องน้ำหลักๆ อยู่ 5 ร่องก็คือ ร่องน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา,ร่องน้ำแม่น้ำบางปะกง, ร่องน้ำแม่กลอง, ร่องน้ำป่าสัก และ ร่องน้ำท่าจีน ในแต่ล่ะร่องน้ำนั้นเราจะเห็นว่ามีสะพานอยู่มากมาย แต่ในร่องน้ำสายหลักนั้นการสร้างสะพานให้เรือลอดได้ต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 4.7 เมตร และ มีความกว้างของตอหม้อไม่ต่ำกว่า 26.5 เมตร เที่ยวนี้เราลองมาดูสภาพของร่องน้ำเจ้าพระยากันดูนะครับว่าร่องน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีความลึก และ ความกว้างเท่าไหร่ จากหลักกิโลเมตรที่ 0 ถึง กิโลเมตรที่ 45 ก็คือจากปากแม่น้ำไปถึงสะพานสาทร(โดยประมาณ) ร่องน้ำมีความกว้างอยู่ที่ 100 เมตร และ มึความลึกอยู่ที่ 7-8 เมตร จากหลักกิโลเมตรที่ 45 ไปจนถึง กิโลเมตรที่ 180 คือจากสะพานสาทรไปจนถึงอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ร่องน้ำจะมีความกว้าง 40 เมตร และ มึความลึกอยู่ระหว่าง 4 – 7 เมตร
เราดูร่องน้ำของแม่น้ำแล้วเรามาดูร่องน้ำชายฝั่งทะเลกันบ้างนะครับ
ร่องน้ำชายฝั่งทะเลในประเทศไทยนั้น มีถึง 307 ร่องน้ำ แบ่งเป็นประเภทหลักๆได้ 3 ประเภท คือ
1. ร่องน้ำชายฝั่งทะเลขนาดเล็ก
2. ร่องน้ำชายฝั่งทะเลขนาดกลาง และ
3. ร่องน้ำชายฝั่งทะเลขนาดใหญ่
ร่องน้ำชายฝั่งทะเลขนาดเล็กนั้นมีอยู่ 198 ร่องน้ำ ความกว้างของร่องน้ำอยู่ที่ 20-30 เมตร มีความลึกจากระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ 1-2 เมตร
ร่องน้ำชายฝั่งทะเลขนาดกลาง มี 84 ร่องน้ำ ความกว้างของร่องน้ำอยู่ที่ 30-50 เมตร มีความลึกจากระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ 2-3 เมตร
ร่องน้ำชายฝั่งทะเลขนาดใหญ่ มี 25 ร่องน้ำ ความกว้างของร่องน้ำอยู่ที่ 60 เมตรขึ้นไป และ มีความลึกจากระดับน้ำทะเลต่ำสุดที่ 3-9 เมตร
ผมเชื่อว่าเราเคยได้ยินเรื่องการขุดลอกร่องน้ำมาไม่มากก็น้อย ถ้าตามข้อมูลของกรมเจ้าท่าบอกไว้ว่า ทางกรมเจ้าท่าจะเป็นผู้ดูแลขุดลอก 178 ร่องน้ำ และ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นดูแล 129 ร่องน้ำ แต่ที่ผ่านมาองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะทำได้หน้าที่ในการขุดลอก และ ดูแลร่องน้ำทั้งหมดเลยยังเป็นหน้าที่ของกรมเจ้าท่าเข้ามาทำให้อยู่
เราได้รู้ถึงร่องน้ำในประทศไปแล้วเที่ยวนี้เรามาลองดูร่องน้ำระหว่างประเทศกันบ้าง
ร่องน้ำระหว่างประเทศนั้นส่วนใหญ่อยู่ในการดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย หลายคนอาจจะสงสัยว่าร่องน้ำระหว่างประเทศนั้นเกี่ยวข้องยังไงกับประเทศไทยของเรา ร่องน้ำระหว่างประเทศนั้นคือร่องน้ำที่มีการสัญจรของเรือที่มากจากหลากหลายประเทศ เช่นร่องน้ำตามท่าเรือน้ำลึกต่างๆ เราลองมาดูกันนะครับว่าร่องน้ำระหว่างประเทศนั้นจะมีความกว้าง และ ความลึกเท่าไหร่
ร่องน้ำท่าเรือแหลมฉบัง มีความลึกอยู่ที่ 14 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ร่องน้ำท่าเรือกรุงเทพ มีความยาวมีความยาวถึง 18 กิโลเมตร และ มีความกว้างร่องน้ำในทางตรง 150 เมตร และ ความกว้างร่องน้ำในทางโค้ง 250 เมตร ส่วนความลึกนั้น การท่าเรือต้องคอยดูแลให้ความลึกนั้นอยู่ไม่ต่ำกว่า 8.5 เมตร แต่ตามข้อมูลของทางกรมเจ้าท่าบอกไว้ว่าแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงท่าเรือกรุงเทพนั้นจะมีความลึกประมาณ 8.5 – 11 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นระดับที่เรือเดินทะเลขนาดกลางสามารถที่จะเข้ามาได้อย่างสบายๆ
ถ้าใครสนใจที่จะศึกษาเรื่องร่องน้ำเพิ่มเติม ลองติดต่อขอซื้อแผนที่ร่องน้ำของกรมเจ้าท่ามาศึกษาดูได้นะครับ บางคนอาจจะบอกว่ามี GPS อยู่แล้วไม่ต้องซื้อแผนที่มาศึกษาก็ได้ เรื่องนี้ถูกต้องครับ แต่ต้องมั่นใจว่าใน GPS มีแผนที่ร่องน้ำ หรือ Bluechart อยู่ด้วยนะครับเพราะการเดินเรือนอกร่องน้ำนั้นไม่สนุกเลย และ อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ด้วย
ขอให้เล่นเรือกันอย่างสนุก และ ปลอดภัยนะครับ