คนที่เล่นเรือส่วนใหญ่ หลังจากเล่นไปได้สักปีสองปี พอเริ่มจะมีความชำนาญในการใช้เรือมักจะมองหาเรือลำใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะเริ่มสนุกกับการเล่นเรือ อยากได้เรือใหม่ ที่ใหญ่กว่าเดิม และ อีกเหตุผลคือตอนที่ซื้อเรือลำแรก ซื้อขนาดเล็กจนเกินไป ไม่เหมาะกับกิจกรรมที่ชอบทำเวลาเล่นเรือ หรือ งบประมาณของการซื้อเรือที่มีจำกัดตอนที่ซื้อเรือลำแรก เพราะราคาของเรือที่ขนาดใหญ่ขึ้นราคาก็สูงขึ้นไปด้วยเช่นกัน เรือยิ่งใหญ่น้ำหนักก็ยิ่งมาก เมื่อน้ำหนักมากเครื่องยนต์ที่ต้องใช้ก็ใหญ่ตาม และ ราคาของเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้นก็หมายถึงราคาที่ต้องจ่ายมากขึ้นเช่นกัน
แต่ก่อนที่เราจะซื้อเรือลำใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่หลายเรื่อง เรื่องแรกๆคือ ค่าเสื่อมของเรือ ถ้าเรือลำต่อไปที่จะซื้อเป็นเรือใหม่ สิ่งที่จะต้องเจอแน่ๆเมื่อซื้อเรือใหม่ก็คือ ค่าเสื่อมของเรือ เรือไม่ว่าจะยี่ห้อใหญ่ ยี่ห้อดังขนาดไหน เมื่อไหร่ที่ท้องเรือแตะน้ำแล้ว ราคาหายไปไม่ต่ำกว่า 30% และ ค่าเสื่อมของเรือนี่แหละที่เป็นค่าใช้จ่ายที่แพงที่สุดของการเล่นเรือ แพงกว่าค่าน้ำมัน ค่าฝากจอด ค่าประกันเยอะมากๆ
เรื่องต่อมาคือ เราเล่นเรือกับใครบ้าง และ ไปกี่คน ถ้าเราบอกว่าไปแค่เพื่อนสนิท 2-3 คนบอกได้เลยว่าให้คุณ 2 ไปก่อนได้เลย เพราะเรือเป็นสิ่งที่หลายคนจะไปด้วย และ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะมีได้ ดังนั้นเวลาที่เอาเรือลงน้ำครั้งแรกๆ มักจะมีคนอยากไปกับเราด้วยหลายคน ดังนั้นถ้าเราจะเลือกซื้อเรือลำใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเราอาจจะต้องคิดถึงจำนวนคนที่จะไปกับเรา เพื่อเป็นตัววัดว่าเราควรจะซื้อเรือขนาดเท่าไหร่
สถานที่เล่นเรือ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกขนาดของเรือ เวลาอยู่ในน้ำและเจอคลื่นลม เรือที่ใหญ่กว่าก็จะทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ และ ปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเรือในทะเล หรือ ไปปากอ่าวบ่อยๆ ถ้าสามารถ Support ไหวก็ควรเลือกขนาดเรือที่ใหญ่เอาไว้ก่อน ส่วนคนที่เล่นเรือตามทะเลสาปที่ไม่ใหญ่มากนัก และ ไม่มีคลื่นลมสักเท่าไหร่ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาซื้อลำใหญ่ๆมาใช้ เพราะเรือที่ขนาดใหญ่ขึ้นอาจจะกลายเป็นภาระแทน
ที่เก็บของบนเรือ ในการเล่นเรือแต่ล่ะครั้งเรามีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวเอาขึ้นเรือไปด้วยค่อนข้างเยอะ ไม่ว่จะเป็น เสื้อชูชีพ กล่องเครื่องมือ อาหาร น้ำดื่ม เบ็ดตกปลา และ อีกมากมาย ดังนั้นพื้นที่เก็บของบนเรือก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการเลือกขนาดเรือ ตัวผมเอง ตอนที่ต่อเรือให้ตัวเองเป็นลำแรก ก็คิดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนสร้าง เพราะผมไม่ชอบให้มีของระเกะระกะบนพื้นเรือ เพราะเวลามีของวางบนพื้นเรือเยอะๆ อาจจะทำให้เกิดอันตราย และ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนเรือได้ ดังนั้นที่เก็บของบนเรือก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการเลือกขนาดเรือครับ
ราคาขายต่อ เรื่องนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าพูดถึงการเลือกขนาดของเรือที่จะซื้อใหม่ทำไมคิดถึงเรื่องนี้ ที่ผมคิดแบบนี้เพราะว่าคนที่เล่นเรือ ถ้าเล่นแล้วรักเรือจริงๆ ผมเชื่อว่ายังคงมีการซื้อขายเรือ เปลี่ยนเรือกันอีกหลายรอบ ดังนั้นการที่จะคิดถึงราคาที่จะขายในอนาคนก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร กลับมาที่เรื่องของขนาด และ ราคาขายต่อ ถ้าเรามองดูในตลาดเรือ เราจะเห็นว่าคนที่เล่นเรือถ้าเป็นกลุ่มตกปลาน้ำจืดตามเขื่อน ตามคลอง เค้านิยมเรือขนาดประมาณ 12 – 16 ฟุต ถ้าเป็นเรือที่ขับท่องเที่ยวทั่วๆไป ขนาดที่เค้านิยมกันคือ 18 -28 ฟุต ถ้าเราเลือกเรือที่อยู่ในกลุ่มที่คนนิยมเล่นกัน ราคาขายต่อก็จะไม่ตกลงมากนัก หรือ บางทีอาจจะขายได้โดยไม่ขาดทุนสักบาทเลยก็เป็นไปได้ แต่ถ้ามีเรือขนาด ใหญ่กว่านี้ หรือ เล็กกว่านี้ ราคาขายต่ออาจจะตกลงมากเพราะขายยากขึ้น
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่าขนาดของเรือมีความสำคัญยังไง
