ปกติเรามักจะคุยกันแต่เรื่องเรือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิค เล็กๆน้อยๆ หรือ การเลือกซื้อ แต่วันนี้ผมขอพูดถึงเทรลเลอร์บ้างนะครับ คนที่เล่นเรือที่ไม่ใช่เรือยาง หรือ เรือเล็ก คงคุ้นเคยกับเทรลเลอร์กันเป็นอย่างดี แต่ก็มีเรือยาง และ เรือเล็กไม่น้อยเหมือนกันที่วางบนเทรลเลอร์แล้วลากไปเที่ยว ซึ่งสะดวกกว่าการที่เรายกเรือใส่รถแล้วไปประกอบค่อนข้างเยอะ เพียงแต่ต้องลากเทรลเลอร์ไปด้วยเท่านั้นเอง
เทรลเลอร์ทุกวันนี้มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีแค่เจ้าตลาดเพียงเจ้าเดียว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทรลเลอร์ของเจ้าตลาดยิ่งถ้าเป็นรุ่นเก่าๆนั้นดีจริงๆ แต่วันนี้สำหรับผู้บริโภค เรามีทางเลือกให้เลือกเพิ่มขึ้น มีราคาให้เลือกหลายราคา แล้วแต่ว่าใครอยากจะได้แบบใหน
แต่สิ่งที่ผมกำลังจะพูดถึงเทรลเลอร์ในวันนี้ เป็นสิ่งที่ผมไม่ค่อยได้ยินคนพูดถึงสักเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่ผมมักจะเห็น และ ได้ยินก็คือ เวลาที่คนจะซื้อเทรลเลอร์ก็ คือ ดูแค่ขนาดว่าใส่เรือขนาดนั้นขนาดนี้ได้รึเปล่า และ ก็ราคา เพราะทุกคนคิดว่าก็แค่หาเทรลเลอร์ที่สามารถใส่เรือได้ก็พอ เพราะเทรลเลอร์แบบใหนก็เหมือนกันนั่นแหระ
เทรลเลอร์นั้นมีอยู่หลายแบบอย่างที่ผมได้เกริ่นเอาไว้ในตอนแรก มีแบบที่เป็นไม้ หรือ ที่หลายๆคนเรียกว่าสาลี่ มีแบบที่เป็นอลูมิเนียม มีแบบที่ป็นเหล็กทาสี หรือ เป็นเหล็กแล้วชุบฮอตดิปกาววาไนซ์ ส่วนช่วงล่างก็มีแบบที่เป็นแหนบ แล้วก็มีแบบที่เป็นทอร์ชั่นบาร์ มีแบบที่มีเพลาเดียว มีแบบที่มีสองเพลา มีแบบที่มีเบรค แล้วก็ไม่มีเบรค มีแบบที่เป็นขาสกี มีแบบที่เป็นลูกกลิ้ง นี่แค่คร่าวๆนะครับ จริงๆยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกค่อนข้างเยอะ ส่วนใครจะเลือกแบบใหน แล้วแต่ชอบ และ งบประมาณเลยครับ
แต่ไม่ว่าจะเป็นเทรลเลอร์แบบใหน สิ่งที่สำคัญมากๆ เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดของเทรลเลอร์ คือ การรับน้ำหนัก และ ความสมดุลย์ครับ นี่คือสิ่งที่หลายคนหลงลืมไปเพราะคิดว่าเทรลเลอร์แบบใหนก็เหมือนกัน แค่ใส่เรือได้ก็พอ จริงๆแล้วไม่พอครับ เรื่องการรับน้ำหนัก และ สมดุลย์ของเทรลเลอร์นั้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจจะทำให้เราเกิดอันตรายได้ ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น ถ้าเทรลเลอร์ของเรารับน้ำหนักได้ที่ 600 กิโล แต่น้ำหนักเรือ รวมอุปกรณ์ของเราน้ำหนักรวมประมาณ 600 กิโล เท่าๆกันพอดีถามว่าเทรลเลอร์ยังรับไหวรึเปล่า ยังรับไหวครับ แต่ก็เรียกได้ว่า full load แล้ว แต่ก็ยังลากไปใหนมาใหนได้อยู่ ลองนึกตามนะครับ เทรลเลอร์ที่เป็นแหนบ แหนบก็คงเรียกว่ายืดจนเกือบจะสุด หรือ สุดตัวแล้ว ไม่มีการให้ตัวใดๆทั้งสิ้นแล้ว ส่วนถ้าเป็นทอร์ชั่นบาร์ก็ต้องเรียกว่ายืดจนสุดแขนแล้ว และ ด้วยถนนของบ้านเราที่มีหลุมมีบ่อ มีเด้งไปมา แต่เทรลเลอร์ของเรานั้นไม่สามารถรับน้ำหนักได้แล้ว มันจะเป็นยังไงแล้วอันตรายขนาดใหน ผมเคยเห็นมีคนลากเรือแล้วเทรลเลอร์เพลาหัก พอเข้าไปดู ก็เป็นเพราะบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่ตัวเทรลเลอร์จะรับไหวนี่เอง
ส่วนเรื่องความสมดุลย์ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าเราไม่สามารถจัดสมดุลย์ให้ดี เวลาที่ลากก็จะลากค่อนข้างยาก เช่นถ้าบางคนเอาน้ำหนักมาที่ทางหัวมากเกินไป เวลาที่เราจะยก หรือ หมุน nose wheel เพื่อใส่กับหัวบอลที่ท้ายรถ น้ำหนักก็จะเยอะมาก ยกคนเดียวแทบจะไม่ขึ้น และ เวลาที่ลากจะรู้สึกหน้ารถจะลอยทำให้ควบคุมทิศทางได้ยากมากๆ และ อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้
ส่วนถ้าน้ำหนักอยู่ที่ท้ายมากเกินไป เวลาที่เรายกหัวเทรลเลอร์เรียกได้ว่ายกมือเดียวได้สบาย แต่เทรลเลอร์มีสิทธิ์ที่จะกระดกไปข้างหลังได้เลย เพราะไม่สมดุลย์ และ ที่แย่กว่านั้น คือ เวลาที่ลากเพราะมีโอกาสที่เทรลเลอร์จะส่ายจนควบคุมทิศทางไม่ได้มีสูงมาก ๆ และ อาจจะเป็นอันตรายได้ ผมเอาคลิปที่เค้าสาธิต เรื่องนี้มาประกอบกับบทความนี้ เพื่อที่จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่หัดลากนะครับ
