วิธีการเลือกซื้อเรือเก่า
ช่วงหลังๆที่ผ่านมา ผมเห็นมีคนเอาเรือเก่าจากเมืองนอกมาขายกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เลยอยากที่จะมาพูดเรื่องการเลือกซื้อเรือเก่าเผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาเรือไว้ใช้สักลำ
เรือเก่าจากเมืองนอกนั้น ต้องขอบอกว่ามีทั้งดีมากๆ ดีระดับกลางๆ แล้วก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ไปจนถึงไม่ควรที่จะซื้อเลย แต่ก็เชื่อว่ามีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าแบบใหนล่ะที่ดีมากๆ แล้วแบบใหน
ล่ะ ที่ไม่ควรจะซื้อเลย
แบบที่ดีมากๆนั้น ต้องขอบอกว่าบางลำเห็นแล้วตัวผมเองยังอดใจไม่ค่อยจะอยู่เลย แต่ด้วยความที่ตัวเองมีถึง 4 ลำแล้ว ถ้าขืนไปลากเข้ามาที่บ้านอีกคงจะโดนไล่ออกจากบ้านไปนอนบนเรือแทนเป็นแน่เท้ ก่อนที่จะออกนอกเรื่องกลับเข้าเรื่องของการดูเรือกันดีกว่าครับ
1. ต้องดูคนขายครับ ถ้าคนขายเป็นคนที่ค้าขายอยู่ในวงการมานาน มีผู้คนในวงการรู้จักมากมาย และ มีชื่อเสียงที่ดีมาตลอด ข้อนี้ทำให้เราวางใจไปได้มากกว่า 60% แล้วว่าถ้าเราซื้อเรือจากเค้า น่าจะได้เรือที่ดี หรือ ถ้าพบปัญหาเค้าก็จะช่วยแก้ไขให้เราได้
2. การเลือกซื้อเรือไม่เหมือนการเลือกซื้อรถยนต์ ที่ถูกใจหน้าตาแล้วก็ลุยกันไป เพราะว่าเรือนั้นมีหลายประเภท และ แต่ล่ะประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เราอาจจะถูกใจหน้าตาแบบนี้ แต่กิจกรรมที่เราชอบนั้นเป็นอีกแบบ ถ้าได้เรือผิดประเภทมาครอบครอง รับรองได้ว่าเล่นเรือไม่มีความสุขแน่ๆ
3. การดูท้องเรือ สำหรับตัวผมเองเวลาที่ผมไปดูเรือ สิ่งแรกที่ผมจะดูคือ ท้องเรือ แต่ผมเห็นมีหลายๆคนมักจะถูกความงามของอุปกรณ์ตกแต่งบนเรือ หรือ ของเล่นที่เค้าให้มาบังตาเอาไว้ แต่สำหรับผมต้องมองที่ท้องเรือเป็นอันดับแรกเลย ว่าท้องเรือเป็นอย่างไรบ้าง มีจุดแตก หรือ รอยซ่อมบำรุงมารึเปล่า ถ้ามีแม้แต่นิดเดียว สำหรับผมเลิกดูทันทีครับ เพราะดูต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ต่อให้ช่าง หรือ คนขายบอกว่า ไม่มีปัญหา เอาไปทำนิดเดียวก็ใช้ได้แล้ว แต่สำหรับผม ท้องเรือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เมื่อไหร่ที่ท้องเรือขาดความแข็งแรงไปโอกาสที่จะแก้ไขกลับมาให้ดีดั่งเดิมนั้นทำได้ยากมากๆ หรือ เรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยก็ว่าได้
4. ดูสภาพโดยรอบของตัวเรือ ไม่ว่าจะเป็นเรือไฟเบอร์ หรือ เรือไม้ เราควรจะเดินสำรวจดูรอบๆตัวเรือ ว่ามีส่วนใด ผุ กร่อน หรือ แตกหักบ้างรึเปล่า สำหรับเรือไฟเบอร์ มีหลายๆลำที่ผมเห็นว่าเนื้อไฟเบอร์เริ่มจะหมดสภาพ สำหรับพวกนี้ผมตัดทิ้งเหมือนกันครับ หลายๆคนอาจจะคิดว่าเอามาขัดพ่นสีใหม่ก็จบ แต่สำหรับผม เรือไม่เหมือนกับรถ รถถ้าผุถ้าพังยังไงก็ยังอยู่บนพื้นถนน แต่เรือถ้าผุถ้าพังมีโอกาสจมได้สูง ดังนั้นไม่ควรที่จะเอาชีวิตของเราไปเสี่ยงครับ ส่วนสำหรับเรือไม้ก็ต้องดูไม่ต่างกันคือ ดูว่ามีรอยผุ หรือ แตกหักส่วนใดบ้างรึเปล่า ถ้ามีแค่นิดหน่อยส่วนด้านบนก็ไม่ค่อยมีปัญหาพอจะแก้ไขกันได้บ้าง แต่ถ้าเป็นส่วนที่ต้องอยู่ในน้ำ หรือ สำหรับแขวนเครื่อง ผมตัดทิ้งเช่นกันครับ เพราะยังไงก็ไม่คุ้ม
5. เครื่องยนต์ ก่อนอื่นต้องดูว่าเครื่องยนต์ยังสตาร์ทติดอยู่รึเปล่า ถ้าติดก็ต้องดูต่อไปว่ารูน้ำระบายความร้อนตันหรือไม่ น้ำยังพุ่งแรงดีอยู่รึเปล่า เสียงเครื่องผิดปกติรึเปล่า แล้วเมื่อเปิดฝาเครื่องดู จุดต่อไปที่ต้องดูคือ หัวน๊อตต่างๆมีรอยการโดนหมุนออกมาบ้างรึยัง ถ้าไม่มีแสดงว่าเครื่องตัวนั้นยังไม่เคยโดนผ่า ถ้าเครื่องยังแน่น เสียงยังดีน้ำไหลแรง สตาร์ททีเดียวติด แบบนั้นแสดงว่าเครื่องตัวนั้นยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้แน่นอน แต่จะอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นอันนั้นต้องลุ้นกันอีกทีครับ แต่ก็ต้องทำใจเพราะการซื้อเครื่องเก่ายังไงก็เสี่ยง แต่ถ้าเปิดเครื่องมาแล้วเห็นมีรอยการถอดน๊อตไปแล้วก็อย่าเพิ่งกังวลนะครับ เพราะตัวที่มีรอยขันแล้วหลายๆตัวคือตัวที่ช่างได้มีการถอดออกมาซ่อมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะดีกว่าตัวที่ยังไม่เคยโดนถอดซะด้วยซ้ำ สิ่งสำคัญคือควรจะดูว่า เครื่องนั้นสตาร์ทติดยากรึเปล่า เสียงยังดีอยู่รึเปล่า น้ำพุ่งดีอยู่รึเปล่า เกียร์ทำงานปกติรึเปล่า มีเสียงผิดปกติรึเปล่า ถ้าไม่มีก็บอกได้เลยว่าเครื่องตัวนั้นยังใช้งานได้อยู่ แต่จะใช้งานได้ดีแค่ใหน อย่างที่ผมเขียนไว้ในตอนต้นคือ เราซื้อเครื่องเก่าครับ จะให้ 100% คงเป็นไปไม่ได้
6. หลังจากดูเรือ และ ดูเครื่องยนต์ ในเบื้องต้นไปแล้ว จุดสุดท้ายที่เราต้องดูคือ สภาพของสีรอบๆตัวเรือ ถ้าเรือลำที่ไปดูนั้น มีการทำสีมาแล้ว ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเรืออาจจะมีปัญหามาแล้วถึงต้องมาทำสี เพราะโดยปกติเรือไฟเบอร์นั้น สามารถที่จะขัดได้ และ เมื่อขัดแล้วก็ออกมาไม่ต่างจากเรือใหม่เลยครับ ดังนั้นถ้ามีการพ่นสีทับไปแล้วต้องระวังมากๆเลยสำหรับเรื่องนี้ ยิ่งทุกวันนี้ผมเห็นมีเรือหลายลำที่เป็นเรือเก่าจากนอกเค้าเอามาโป้วสีแล้วพ่นทับเลย คนซื้อมาดูเห็นเรือสวยสภาพดี แต่จริงๆแล้วด้านในสภาพไม่ไหวแล้วก็เยอะ ดังนั้นต้องดูกันอย่างละเอียดเลยล่ะครับ
ถ้าดูตาม 6 ข้อที่ผมได้กล่าวมาในข้างต้นแล้วผ่านทุกข้อ แสดงว่าเรือลำนั้นอยู่ในสภาพที่เอามาใช้งานได้เลยครับ แต่ถ้าไม่ผ่านแล้วคิดว่ายอมเอามาทำอีกนิดหน่อย ขอเตือนไว้ตรงนี้ว่าอย่าเลยครับ ยังไงก็ไม่คุ้ม นอกจากถ้าคุณเป็นคนที่มีความรู้เรื่องเรือดีมากๆ และ มีช่างที่ไว้ใจได้จริงๆช่วยทำให้ และ ที่สำคัญควรจะไปกับคนที่มีประสบการณ์เรือพอสมควร ที่เป็นเพื่อนเราจริงๆ ไม่ใช่ช่างตามอู่ต่างๆ ให้เค้าช่วยไปดู เพราะบางทีด้วยความที่เราอยากจะได้เรือ มองไปตรงใหนมันก็ใช่ไปหมด แล้วมีไม่น้อยเลยที่ผมเห็นว่าดูแต่ด้านในของเรือ กับ ของเล่นที่เค้าให้มาอย่างที่ผมเขียนไว้ในตอนต้น แล้วตัดสินใจเลย ดังนั้นควรจะมีเพื่อนที่สามารถหยุดเราได้บ้างไปด้วย อย่างน้อยให้ได้ฉุกคิดสักนิดก่อนที่จะจ่ายเงิน ขอให้คนที่กำลังมองหาเรือใหม่ ได้เรือที่ดี ที่ถูกใจ นะครับ ถ้ามีโอกาสคงได้พบกันในสายน้ำนะครับ
