เรือดีต้องแพงเสมอไปรึเปล่า?????
เวลาที่เราพูดถึงเรือดีๆ ผมเชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่จะนึกถึงเรือนอกที่มียี่ห้อราคาแพงๆ แล้วก็พูดกันว่าเรือลำนั้นดี ลำนี้ดี แต่สำหรับผม ผมกลับไม่ได้มองที่จุดนั้นเลย หรือ อาจจะเป็นเพราะว่าผมเล่นเรือมานานพอสมควรจนรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร
วันนี้ผมขอพูดถึงแง่คิดในการเลือกซื้อเรือแล้วกันนะครับ การที่เราจะบอกว่าเรือลำนั้นดี ลำนี้ดี ผมบอกตรงนี้ได้เลยว่าตราบใดที่เรายังหาคำตอบ ให้คำถามก่อนซื้อเรือเราไม่ได้ เราไม่สามารถที่จะหาเรือที่ดีได้เลย คำถามเหล่านั้นก็คือ
- เราเล่นเรือเพื่ออะไร
- เราชอบไปกันกี่คน
- อยากจะเอาไว้ขับเล่นในแม่น้ำ หรือ ว่าลงทะเล
- กิจกรรมโปรดเวลาลงเรือของเราคืออะไร
- งบประมาณของเราอยู่ที่เท่าไหร่
ถ้าเราสามารถที่จะตอบคำถาม หล่านี้ได้ เดี๋ยวภาพเรือก็จะค่อยๆปรากฎขึ้นมาให้เราเห็น
หลายคนอาจจะงง ว่าจะซื้อเรือทำไมต้องมีคำถามแบบนี้ สำหรับผมถ้าเราสามารถที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ ตัวเลือกของเราลดลง และ เมื่อตัวเลือกของเราลดลง เราจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรือลำใหนที่เหมาะกับเราจริงๆ
ตัวอย่างเช่นข้อที่1 เราเล่นเรือเพื่ออะไร สำหรับบางคนอาจจะอยากมีเรือเพราะว่าอยากจะไปตกปลาทะเล บางคนอาจจะอยากมีเพราะว่าอยากจะขับเรือไปเที่ยวตลาดน้ำ แค่สองประเภทนี้ก็เรียกได้ว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแล้วครับ เรือสำหรับท่องเที่ยวตลาดน้ำ เป็นไปได้ตั้งแต่เรือขนาด 9 ฟุต ไปจนถึง 14 ฟุต ไม่แนะนำที่ใหญ่กว่านี้เพราะเวลาที่เราเข้าไปในเขตตลาดน้ำที่เรือพลุกพล่านแล้ว อาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ หรือ ไม่คลื่นจากเรือของเราอาจจะไปกระทบกับพ่อค้าแม่ขายในตลาดน้ำทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ส่วนคนที่อยากจะหาเรือไว้ตกปลาทะเล ก็ควรที่จะมองเรือที่มีกาบค่อนข้างสูง และ มีขนาด 21 ฟุตเป็นอย่างน้อย เพราะคลื่นลมในทะเลนั้นไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าจะเป็นอย่างไร ดังนั้นถ้าซื้อเรือที่ไม่เหมาะสมกับความต้องการของเรา ไม่นานก็คงจะต้องเปลี่ยนเรือ และ การเปลี่ยนเรือแต่ล่ะครั้ง บางคนอาจจะโชคดีขายได้ไม่ขาดทุนสักเท่าไหร่ แต่บางคนก็อาจจะขาดทุนยับเยิน เพราะอยากจะรีบขายเพื่อไปหาเรือลำใหม่ แค่นี้เรือก็แพงขึ้นแล้ว
ส่วนข้อที่ 2 ชอบไปกันกี่คน คำถามนี้ ผมมักจะได้ยินคำตอบว่าไปไม่กี่คนหรอกครับ 4-5 คนเอง สำหรับผม การที่เราจะลงเรือกันไป 4-5 คนนั้นเรือควรจะมีขนาดอย่างน้อย 18 ฟุตขึ้นไป ถามว่าเรือขนาด 14 ฟุต สามารถที่จะนั่ง 3-4 คนได้มั้ย เห็นมีคนนั่งกันเยอะแยะ ผมไม่เถียงนะครับว่านั่งได้ แต่ถามว่าเหมาะสมรึเปล่า เพราะว่าเรือขนาด 14 ฟุตนั้น การรับน้ำหนัก ก็ไม่ได้สามารถที่จะรับน้ำหนักได้มากนัก ถ้านั่งกัน 4 คน แล้วจัดความสมดุลย์บนเรือได้ไม่ดี เรืออาจจะเสียอาการก็เป็นได้นะครับ แถมน้ำหนักที่บรรทุกบนเรืออาจจะมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้เรือวิ่งเสียอาการ เครื่องยนต์ทำงานหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตราย และ เสียเงินเสียทองในการซ่อมเรืออีก แต่ถ้าบอกว่าไปกันแค่ 2 คน สำหรับผมเรือ11-13 ฟุตกำลังสวยเลย เคลื่อนย้ายก็ง่าย ควบคุมก็ง่าย แถมประหยัดด้วย เพราะด้วยขนาดของเรือ และ เครื่องยนต์ที่เล็กลงมา ราคาก็เล็กลงมาตามไปด้วย
ส่วนข้อ 3 จะเอาไว้เล่นแม่น้ำ หรือ ทะเล ผมไม่เถียงนะครับว่าเรือที่วิ่งในแม่น้ำนั้นสามารถที่จะเอาไปเล่นทะเลได้ แต่ถ้าถามถึงความเหมาะสม ผมต้องบอกว่าไม่เหมาะสมอย่างมาก ผมเคยเห็นมีคนเอาเรือสำหรับแม่น้ำไปเล่นทะเล และแล้วตอนจบต้องขายเรือทิ้งไปไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเรือที่ออกแบบมาสำหรับแม่น้ำนั้น ไม่ใช่แค่รูปร่างของเรือ หรือ ท้องเรือที่แตกต่าง แต่แตกต่างไปถึงโครงสร้างด้านในเลยทีเดียว เรือสำหรับวิ่งน้ำจืดนั้น ท้องเรือบางลำโดยเฉพาะเรือที่ต่อในเมืองไทย (บางอู่เท่านั้นนะครับ) ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการกระแทกมากนัก และ ไม่ได้เสริมกระดูกงูด้านในให้แข็งแรงเพียงพอ ถ้าเอาไปเล่นทะเลอาจจะเกิดอันตรายได้ ในทางกลับกันถ้าเอาเรือทะเลมาเพื่อใช้ในน้ำจืด สำหรับผม ผมว่ามันเกินความจำเป็น และ ทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
ส่วนข้อที่ 4 กิจกรรมโปรดของเราคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น สำหรับคนที่ชอบตกปลาทะเล แล้วไปซื้อเรือ Bassboats ซึ่งเป็นเรือตกปลาเหมือนกัน เรือ bassboats นั้นเป็นเรือที่มีสมรรถนะสูง ทำความเร็วได้ดี ยืนตีปลาได้รอบลำโดยที่เรือไม่โคลง แต่เป็นเรือที่มีกาบเตี้ยมากๆ สู้คลื่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเอาไปวิ่งในทะเล อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ หรือ บางคนชอบเล่นสกี หรือ ลาก wakeboard แล้วไปได้เรือสำหรับตกปลามา แบบนี้ก็ไม่ค่อยจะเหมาะสมสักเท่าไหร่ ทั้งรูปแบบของเรือ และ อุปกรณ์ต่างๆบนเรือ
ส่วนข้อที่ 5 งบประมาณของเราอยู่ที่เท่าไหร่ ผมเห็นคนไม่น้อยที่บอกว่าก็มีงบแค่นี้ก็ได้แค่นี้แหระ จะไปเลือกอะไรได้มากมาย มีงบเท่านี้ก็หาเรือตามงบนี้แหระ ได้แบบใหนชอบหน้าตาก็ซื้อเลย จบ บอกได้เลยครับว่าไม่จบแน่ๆ เพราะตราบใดที่ได้เรือที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการใช้ของเราแล้ว สักวันหนึ่งไม่ช้าไม่นานก็จะเริ่มตะขิดตะขวงใจอยากได้แบบนั้นแบบนี้ และในที่สุดก็ต้องขายเพือซื้อใหม่อยู่ดี ก็กลับไปอยู่ในวังวนของการซื้อ การขายอีกรอบ ซึ่งในที่สุดต้องจ่ายแพงกว่างบที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกอยู่ดี
สรุปว่า การที่เราจะซื้อเรือสักลำ เราควรที่จะตอบคำถามของตัวเองให้ได้ซะก่อน เพื่อเป็นการคัดกรอง แล้วค่อยๆมองหา เรือในตลาดบ้านเราทุกวันนี้ต้องบอกว่าถูกกว่าสมัยก่อนมากมาย เพราะมีคนนำเข้ามาขายกันเยอะ เรียกได้ว่าตาดีได้ ตาร้ายเสีย กันเลยทีเดียว ค่อยๆเลือก ค่อยๆลอง เรื่องลองเรือเป็นสิ่งสำคัญมากๆนะครับ ตราบใดที่ไม่ได้ลองห้ามซื้อโดยเด็ดขาด เรือเป็นสิ่งที่วิ่งบนผิวน้ำ เวลาซื้อขายจะทดสอบบนบกได้อย่างไร เมื่อไหร่ที่เราหาเรือที่ตอบโจทย์ของเราได้ทุกข้อ ผมบอกได้เลยว่า นั่นแหระคุณได้เรือที่ดี และ เหมาะสมกับคุณแล้ว และนั่นจะเป็นคำตอบว่าเรือที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป แต่ถ้าได้เรือที่ไม่เหมาะกับเรา รับรองว่าแพงแน่ๆครับ
